สเตอร์ลิงมาด้วย ฟุตบอลยูโร 2020 ได้คู่ชิงแชมป์เป็นที่เรียบร้อยภายหลังจาก อิตาลี ฝ่าด่าน สเปน มาได้สำเร็จ ในช่วงเวลาที่อังกฤษ
สเตอร์ลิงมาด้วย ฟุตบอลยูโร 2020 ได้คู่ชิงแชมป์เป็นที่เรียบร้อยภายหลังจาก อิตาลี ฝ่าด่าน สเปน มาได้สำเร็จ ในช่วงเวลาที่ อังกฤษ ก็แทรกเอาชนะ เดนมาร์ก เหมือนกัน โดยรอบรองชนะเลิศก่อนหน้าที่ผ่านมา
มีนักเตะคนจำนวนไม่น้อยที่ทำผลงานโดดเด่นมากมาย เว็บมีชื่อ ก็เลยได้จัดทีมยอดเยี่ยมโดยวัดจากผลงานส่วนตัวของนักฟุตบอลแต่ละคน ซึ่งมีลำแข้งอังกฤษถึง 5 ราย, อิตาลี 3 ราย แล้วก็เดนมาร์ก อีก 3 รายเข้ามาติดทัพ
ผู้เฝ้าประตู: แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล โชคร้ายที่ เดนมาร์ก จะต้องจบทางไว้เพียงแต่รอบรองฯ แม้กระนั้นจำเป็นต้องสารภาพว่าพวกเขาสู้กับ อังกฤษ ได้โดยไม่ด้อยกว่าเลยแม้แต่น้อย แล้วก็ในวันนั้นคนที่ช่วยปรับทีมยืนหยัดสู้ไป
จนกระทั่งช่วงต่อเวลาเป็น แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล นายด่าน เลสเตอร์ ซิตี้ ที่โชว์เซฟสูงถึง 9ครั้ง มีอีกทั้งการบล็อคลูกยิงจ่อๆของ สเตอร์ลิง, บินปัดลูกกระแทกของ แม็กไกวร์ ที่กำลังจะเสียบมุมตาข่าย แถมยังเซฟลูกจุดลูกโทษของ แฮร์รี่ เคน อีกแม้ว่าจะโดนซ้ำก็ตาม
นี่เป็นยอดเยี่ยมผลงานที่เขาฝากเอาไว้ภายในยูโรครั้งนี้ ตัวบุกปีกขวา: ไคล์ วอล์คเกอร์ หากแม้ตำแหน่งตัวบุกปีกขวาทีมชาติอังกฤษมีตัวเลือกหลายรายแต่ว่าฟอร์มของ วอล์คเกอร์ ในเกมกับ เดนมาร์ก พิสูจน์แล้วว่าเพราะอะไร
เซาธ์เกต ถึงไว้ใจลำแข้งแมนฯ ซิตี้รายนี้ ความเร็วของของเขามีประโยชน์มากทั้งยังการช่วยเกมรับรวมทั้งเพิ่มเติมเกมรุก โดยเกมนี้เขามีสถิติสร้างจังหวะ 2ครั้ง แล้วก็จ่ายบอลถูกต้องแม่นยำ 90.6% ข่าวกีฬาฟุตบอลลิเวอร์พูล
กองหลังตัวกลาง : เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ โบนุชชี่ ยังคงเป็นคีย์แมนสำคัญในเกมรับของ อัซซูร์รี่ ถึงแม้ว่าประตูตีเสมอเขาจะมีส่วนผิดพลาดก็ตาม แต่ว่าผลงานตลอดทั้งเกมนั้นจัดว่าดีมากมาย เขาเก็บสถิติช่วยจัดการบอลถึง 4ครั้ง
นักเตะคนจำนวนไม่น้อยที่ทำผลงานโดดเด่นมากมาย
สเตอร์ลิงมาด้วย รวมทั้งตัดบอลได้ถึง 6ครั้ง นอกเหนือจากนี้เขาเป็นเลิศในผู้ที่สังหารจุดลูกโทษสุดเฉียบขาดช่วงดวลฎีกา กองหลังตัวกลาง : แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ในรอบ 8 ทีมท้ายที่สุดเขาได้รับเลือกติดทีมดีที่สุด ช่วงเวลาที่รอบนี้เจ้าตัวก็ยังโชว์ความเข้มแข็ง
จนได้รับเลือกอีกที แม็กแกว่งร์ คุมเกมยอมรับได้อย่างแน่นแฟ้นโดยยิ่งไปกว่านั้นในเรื่องลูกในอากาศข้างหลังเอาชนะได้มากที่สุดในสนาม (9ครั้ง) แถมยังมีสถิติตัดบอลและก็สะสางบอลอีกอย่างละ 5ครั้ง
ตัวบุกปีกซ้าย: ลุค ชอว์ รอบที่แล้ว ลุค ชอว์ ทำผลงานยอดเยี่ยมจนถึงหลายเสียงชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง และก็เกมกับ เดนมาร์ก เขาก็ยังสืบต่อผลงานอันเยี่ยมที่สุดเช่นเดียวกัน สร้างอันตรายได้ตลอดสำหรับการเพิ่มเกมรุก
โดยมีสถิติสร้างจังหวะ 1ครั้ง, เอาชนะลูกกลางอากาศ 5ครั้ง, ตำแหน่งแท็กเกิ้ล 3ครั้ง มิดฟิลด์: ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก กองกลางของ “ไก่เดือยทอง” มีส่วนสำคัญสำหรับในการทำให้ อังกฤษ พบกับความยากแค้น
สำหรับการครอบครองบอลบุกใส่ เขามีสถิติเกมรับที่สะดุดตามากมายอีกทั้งการแท็กเกิ้ลถึง 7 ครั้งซึ่งมากยิ่งกว่านักฟุตบอลอังกฤษทั้งทีม รวมทั้งตัดบอลอีก 3 ครั้งด้วย กองกลาง: จอร์จินโญ่ อิตาลี ผ่านเข้ารอบชิงแชมป์ก็จริง
แม้กระนั้นจะต้องเห็นด้วยว่าเกมวันนั้น สเปน เล่นได้ดีมากยิ่งกว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเกมบุกที่ได้โอกาสหลายต่อหลายที แต่ทว่า จอร์จินโญ่ ก็มีส่วนช่วยแบ่งเบาภาระของกองข้างหลังอิตาลีได้เยอะแยะทีเดียว
จากสถิติการตัดบอลถึง 8 ครั้งมากยิ่งกว่าทุกคนในสนาม นอกจากนั้น จอร์จินโญ่ ยังเป็นฆ่าจุดลูกโทษคนในที่สุดอย่างใจเย็นด้วย มิดฟิลด์: มิคเกล ดามส์การ์ด สตาร์วัย 21 ปีเป็นหนึ่งในดาวรุ่งกลางแจ้งกำเนิดในทัวร์นาเมนต์นี้
ข้างหลังซัดฟรีคิกสุดงามหยดผ่านมือของ จอร์แดน พิคฟอร์ด เข้าไปตุงตาข่าย หากว่าในเกมกับ อังกฤษ เขาจะสัมผัสบอลเพียงแต่ 30 ครั้งแต่ว่าเจ้าตัวมีสถิติที่สุดยอดในเกมรุกทั้งยังช่องทางยิง 2ครั้ง, ยิงเข้ากรอบ 1ครั้ง,
สร้างโอกาส 1ครั้ง ในขณะที่เกมรับก็ดีแล้วด้วยเหมือนกันจากสถิติตัดบอล 3 ครั้งและแท็กเกิ้ล 2ครั้ง ปีกซ้าย: เฟเดริโก้ เคียซ่า เฟเดริโก้ เคียซ่า ฟอร์มโดดเด่นมากในฟุตบอลยูโรครั้งนี้แล้วก็ในเกมกับ สเปน เขาได้รับเลือกให้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์
ด้วยข้างหลังเป็นคนซัดบอลเสียบข้างตาข่ายอย่างงดงามพา อิตาลี ออกนำซึ่งมาจากจังหวะยิงของเขาอีกทั้งเกมเพียงแต่ 2 ครั้งและก็เป็นการยิงตรงกรอบทั้งยัง 2 ครั้งด้วย นอกเหนือจากนั้นยังมีส่วนสร้างช่องทางยิงให้เพื่อนพ้องร่วมทีมอีก1ครั้ง
ปีกขวา: ราฮีม สเตอร์ลิง เป็นอีกทีที่ ราฮีม สเตอร์ลิง เจอเสียงวิภาควิจารณ์อย่างมากถ่วงแม้กระนั้นเจ้าตัวก็ยังเป็นหัวใจหลักที่พา อังกฤษ เข้าชิงแชมป์ อีกทั้งมีส่วนกับประตูแรกซึ่งเกือบจะเป็นคนยิงได้ถ้าหากปราการหลัง
เดนมาร์กไม่สกัดเข้าประตูตนเองซะก่อน ในช่วงเวลาที่ประตูลำดับที่สองมาจาการเรียกจุดลูกโทษของ สเตอร์ลิง เอง เจ้าตัวยังมีสถิติเลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้สูงที่สุดถึง 10 ครั้งซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของยูโรครั้งนี้
แผงหน้า: แฮร์รี่ เคน รับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ หลังจบเกมกับ เดนมาร์ก ซึ่งถึงแม้เกมนี้จะได้โอกาสยิงแบบเน้นๆไม่มาก แม้กระนั้นเขามีส่วนร่วมกับทั้งคู่ประตูที่อังกฤษทำเป็น โดยประตูแรก เคนเป็นคนแทงบอลทะลุช่องให้ ซาก้า หลุดลำพัง ส่วนประตูลำดับที่สองนั้นบางทีก็อาจจะยิงจุดลูกโทษไม่เข้าแต่ว่าก็ตามซ้ำได้สำเร็จ ศักดิ์ศรีกินกันไม่ลง