ซูเปอร์ซับทีเด็ด “อัซซูร์รี่” ของที่ปรึกษา โรแบร์โต้ มันชินี่ อ่อนล้าไม่น้อยแถมเสียประตูแรกในรอบ 12 นัดหลังยืดเวลาพิเศษเชือด ออสเตรีย2-1

ซูเปอร์ซับทีเด็ด “อัซซูร์รี่” ของที่ปรึกษา โรแบร์โต้ มันชินี่ อ่อนล้าไม่น้อยแถมเสียประตูแรกในรอบ 12 นัดหมายข้างหลังยืดเวลาพิเศษเชือด ออสเตรีย2-1 จากประตูของ เฟเดริโก้ เคียซ่า และก็ มัตเตโอ เปสซิน่า ลงมาเป็น “ซูเปอร์ซับ”

พาทีมผ่านเข้ารอบ 8 กลุ่มท้ายที่สุดคอยเจอผู้ชนะระหว่าง เบลเยียม หรือ โปรตุเกส ในศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 16 กลุ่มท้ายที่สุด คืนวันเสาร์ก่อนหน้าที่ผ่านมา สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม, ลอนดอน (อังกฤษ)

ศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 16 กลุ่มท้ายที่สุด คืนวันเสาร์ที่ 26 เดือนมิถุนายน 2564 ที่สนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม เมือง ลอนดอน ประเทศ อังกฤษ เป็นการเจอกันระหว่าง อิตาลีแชมป์กลุ่ม เอ ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรง ดวลออสเตรีย รองแชมป์กลุ่ม ซี

โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้ฝึกสอนทีมชาติอิตาลี พาทีมแทรกชนะเวลส์ 1-0 ในเกมส่งท้ายรอบแรก เป็นการคว้าชัย 11 นัดหมายติดและไม่แพ้มานานถึง 30 เกมแล้ว ซึ่งเป็นการทำสถิติเสมอกันกับที่วิตตอริโอ ปอซโซ่ อดีตกาลผู้จัดการทีมเคยทำไว้เมื่อปี 1930

ทางด้าน ฟรังโก้ โฟด้า ผู้ฝึกสอนทีมชาติออสเตรีย พาทีมแทรกชนะยูเครน 1-0 ในนัดหมายส่งท้ายรอบแรก เป็นการคว้าชัยนัดหมายที่ 2 ในรอบ 3 เกม พร้อมเข้ารอบมาในฐานะรองแชมป์กลุ่ม ซี

เริ่มครึ่งแรก 2 นาทีเป็นออสเตรีย ทำเป็นดีมากกว่าหวุดหวิดได้ประตูจากการติดต่อประสานงานสุดงาม มาร์เซล ซาบิตเซอร์ สอดมาไขว้ในกรอบ 6 หลาเสียดายไม่โดนบอลก่อนจังหวะสม่ำเสมอ มาร์โก อาร์เนาโตวิช เข้าอันตรายใส่ นิโคโล่ บาเรลล่า รับใบเหลืองไปอย่างเร็ว

10 นาทีผ่าน ผู้ร่วมทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ เน้นขึ้นเกมรุกทางฝั่งซ้าย ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ ได้โอกาสลากตัดเข้าในก่อนปั่นด้วยขวาโค้งหนีบล็อค แนวรับออสเตรีย แม้กระนั้นก็ยังไปตรงตัว ดาเนี่ยล บัคมันน์ รับเอาไว้ได้ไม่พลาด

นาทีที่11 อิตาลีทักทายบ้างจากข้อผิดพลาดของผู้เล่น ออสเตรียเสียบอลหน้าจุดโทษโดน มาร์โก แวร์รัตติ ทิ่มเร็วออกซ้ายถึง เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า ใส่มาสับขาหลอกได้โอกาสอัดด้วยซ้ายปลิ้นข้างหลังเท้าออกข้างหลัง

ถัดมานาทีที่ 17 อัซซูร์รี่เสียโอกาสทองจากบอลทางด้านซ้ายของ เลโอนาร์โด้ สปิที่นาซโซล่า สอดขึ้นมาตบย้อนเข้าในไหลมาเข้าทาง นิโคโล่ บาเรลล่า เฉือนไซค์ก้อยหน้ากรอบ 6 หลาติดเท้า ดาเนี่ยล บัคมันน์ เซฟเอาไว้ได้เหลือเชื่อ

นาทีต่อมาออสเตรีย โต้ตอบกะทันหันจากบอลยาวของ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ เอาขึ้นมาให้ มาร์โก อาร์เนาโตวิช ใช้ความแข็งแกร่งแทรกชนะแนวรับอิตาลี ทั้งยังแผงแม้กระนั้นจังหวะยิงโดนไม่ดีเหาะผ่านคานออกไปไกล

แฟนบอลอิตาลี หวุดหวิดได้เฮนาทีที่ 32 ชิโร่ อิมโมบิเล่ ถอยลงมารับบอลจาก นิโคโล่ บาเรลล่า ก่อนหันมาตั้งป้อมตะบันด้วยขวาระยะราว 30 หลาโค้งหนี ดาเนี่ยล บัคมันน์ พุ่งไปชนเสาเหลี่มนอกเด้งออกข้างหลัง

นาทีที่43 อัซซูร์รี่พากเพียรเร่งเครื่องจากความรู้ความเข้าใจเฉพาะบุคคลของ เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า ใส่มารับบอลกลับแหวกเข้าในก่อนหักข้อด้วยขวากระดอนพื้นพุ่งหาโคนเสาแรกแม้กระนั้นยังไม่ผ่านมือ ดาเนี่ยล บัคมันน์ ผวปัดทิ้งหวุดหวิด

ซูเปอร์ซับทีเด็ด จากจังหวะตลอดลูกเตะมุมทางด้านซ้าย ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ ปั่นเข้าจุดโทษโค้งมาเสาแรกตกใส่หัว โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ ขึ้นเอาชนะตัวเกาะติดกระแทกเปลี่ยนแปลงทางบอลตกพื้นผ่านหน้าประตูหลุดออกข้างหลัง ข่าวกีฬาฟุตบอลลิเวอร์พูล

ซูเปอร์ซับทีเด็ด

หมดครึ่งเวลาแรก อิตาลี 0 ออสเตรีย 0

ซูเปอร์ซับทีเด็ด เริ่มช่วงหลัง อิตาลีฝ่าในทันทีพากเพียรตั้งเกมบุกแต่ว่ายังเจาะแนวรับออสเตรีย ไม่ได้จำเป็นต้องเปลี่ยมาเข้าทำมาจากลูกยิงไกล ชิโร่ อิมโมบิเล่ ถอยมาหวดหน้ากรอบ 18 หลาก็ยังติดบล็อคดังเดิม

นาทีที่48 ออสเตรียได้เสียวบ้างจากข้อผิดพลาดของ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ จับบอลลั่นโดน มาร์โก อาร์เนาโตวิช ฉกลากแหวกเข้าจุดโทษดึงจังหวะได้โอกาสซัดด้วยขวาแต่ว่าโดนไม่ถูกเหลี่ยมปลิ้นผ่านหน้าทางออกไป

3 นาทีถัดมาจากจังหวะวุ่นวายหน้าประตู โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ ไปเปิดปุ่มเข้าฟาวล์ใส่ คริสโตฟ เบาม์การ์ทเนอร์ เสียฟรีคิกหน้าเส้น 18 หลา ดาวิด อลาบา รับหน้าที่ปั่นด้วยซ้ายเฉี่ยวคานหลุดออกข้างหลังน้อยมาก

นาทีที่63 ครั้งนี้เป็นออสเตรีย เร่งเครื่องบ้าง มาร์เซล ซาบิตเซอร์ รับบอลจากทางขวามือก่อนตั้งป้อมซัดหน้าจุดโทษแฉลบขา เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ แปลงทางหลุดเสาแรกได้เสียวจากจังหวะสม่ำเสมอลูกเตะมุมด้านซ้าย มาร์โก อาร์เนาโตวิช เก็บบอลด้านขวาทิ้งตัวยิงยัดเสาแรกตรงตัว จานลุยจิ ดอนทุ่งนารุมม่า

แม้กระนั้นแล้วนาทีที่ 65 ออสเตรียแทบได้เฮจากบอลยาวทางด้านขวาตักเข้าจุดโทษลึกไปเสาไกลถึง ดาวิด อลาบา ขึ้นดีมากกว่า โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ กระแทกตั้งย้อนคืนให้ มาร์โก อาร์เนาโตวิช สอดมากระแทกผ่านมือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า เช็ดใต้คานเด้งตุงตาข่าย

โดยจังหวะนี้ แอนโธนี่ เทย์เลอร์ คอยฟังสัญณานจากห้อง วีเออาร์ ก่อนหันมาเป่ายึดสกอร์คืนเนื่องมาจาก มาร์โก อาร์เนาโตวิช ยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าไปก่อนแล้ว อิตาลี0 ออสเตรีย0

70 นาทีผ่าน อัซซูร์รี่มีปัญหาสำหรับในการจบสกอร์กระจ่างแจ้งจากการติดต่อประสานงานของผู้เล่นสำรอง มานูเอล โลคาเตลลี่ ได้โอกาสปั่นด้วยขวาก่อนเป็น ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ ได้ทดลองซัดในกรอบ 6 หลาในที่สุดตกม้าตายยิงออกไปหมด

นาทีที่75 จากฟรีคิกกึ่งกลางสนามของ ดาวิด อลาบา ยกเข้าจุดโทษตกใส่หัว คริสโตฟ เบาม์การ์ทเนอร์ กระแทกชงมาเสาไกลแทบถึง สเตฟาน ไลเนอร์ โดนศอกอัดร่วงลงไป แอนโธนี่ เทย์เลอร์ รอคอยเช็คจุดลูกโทษจาก วีเออาร์ ท้ายที่สุดเปลี่ยนเป็น สเตฟาน ไลเนอร์ ยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า

ต่อไปไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม 90นาที อิตาลี0 ออสเตรีย0 จะต้องไปขยายเวลาพิเศษ 30 นาทีหากลุ่มผ่านเข้ารอบ แต่ว่าแล้วนาทีที่ 94 อิตาลีทะยานออกนำ 1-0 จากบอลยาวด้านซ้ายของ เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า

ตักเข้าจุดโทษลึกมาเสาไกลถึง เฟเดริโก้ เคียซ่า ใช้หัวพักบอลก่อนจิ้มหนี สเตฟาน ไลเนอร์ ได้โอกาสตวัดด้วยซ้ายไถลปลายตีน ดาวิด อลาบา พุ่งแทงหน้าต่างเสาไกลงามหยด

นาทีที่ 104 จากฟรีคิกหน้ากรอบจุดโทษของ ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ วิ่งมาปั่นด้วยขวาบอลติดไซค์โป้งโค้งผ่านกำแพงเฉียดแทงใต้คานติดปลายมือ ดาเนี่ยล บัคมันน์ ผวาปัดทิ้งไม่น่าเชื่อ

ซูเปอร์ซับทีเด็ด นาทีถัดมา อิตาลีหนีห่างเป็น 2-0 จากบอลด้านซ้ายของ ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ แทงเข้าจุดโทษให้ ฟรานเชสโก้ อแชร์บี ทิ้งตัวเขี่ยบอลถึงแม้ว่าจะ มัตเตโอ เปสซิน่า ตะบันด้วยซ้ายสวนตัว ดาเนี่ยล บัคมันน์ ตุงตาข่ายไม่เหลือ ทะลุตัดเชือก