ลิเวอร์พูลได้เฮลั่น ลิเวอร์พูลซิวชัยชนะแรกในตอนปรีฤดูกาลสำเร็จ ถึงแม้จำต้องรอถึงช่วงท้ายเกมถึงได้สกอร์ชัย

ลิเวอร์พูลได้เฮลั่น “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ซิวชัยชนะแรกในตอนปรีฤดูกาลสำเร็จ ถึงแม้จำต้องรอถึงช่วงท้ายเกมถึงได้สกอร์ชัยจากแนวทางการทำเข้าประตูของผู้เล่น ไมนซ์ เชือดไป 1-0 ก่อนลับหน้าแข้งนัดหมายถัดไป พบ แฮร์ธ่า เบอรืลิน

สำหรับในการแข่งศึกฟุตบอลกระชับมิตรสมาคม คืนวันศุกร์ที่ 23 เดือนกรกฎาคมก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา สนาม : อุสเตอร์แบร์ก อารีน่า, ออสเตรีย ศึกฟุตบอลกระชับมิตรสมาพันธ์ คืนวันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคมก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ลงอุ่นเกือกเป็นเกมลำดับที่สาม ข้างหลังสองนัดหมายก่อนหน้าตลอดมาทั้งสอง เจอร์เก้น คล็อปป์ จัดแนวรับตัวใหม่ “อิบราฮิม่า โกนาเต้” คุมเกมรับ ส่วนแนวรุกมี “มาเน่-ซาลาห์” ลงซัด ไมนซ์ ที่เก็บชัยลับหน้าแข้งแมตช์ก่อน

โบ สเวนส์สัน จัดนักฟุตบอลชุดดีสุดนำโดย “ฌอง-ปอล โบติอุส” ล่าประตูเกมนี้ ลิเวอร์พูลลุยช่วงหกนาทีแรก เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โยนลูกเตะมุมทางด้านขวา บอลเข้ามากึ่งกลางจุดโทษ

โฌแอล มาติป โหม่งชงมาทางเสาสอง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน หวังตามซ้ำแม้กระนั้นโดนแนวรับไมนซ์จัดการทิ้งตรงเวลา อีกสิบนาทีถัดมา ฌอง-ปอล โบติอุส ถอยต่ำมากมายลางสนาม วางบอลออกมาทางขวามือ

ดาเนียล โบรซินสกี้ ดอดมาเฉือนบอลเรียดเข้ามาหน้าประตู แต่ว่าเจอ อิบราฮิม่า โกนาเต้ เตะทิ้งออกข้างหลังช่วยทีมเอาไว้ ดาเนียล โบรซินสกี้ ส่งบอลสั้นมาที่ เบน บ็อบเซียน ตบบอลคืนให้ฟูลแบ็กเพื่อร่วมทีมปรี่มาซัด ข่าวกีฬาฟุตบอลลิเวอร์พูล

แนวทางการทำเข้าประตูของผู้เล่น ไมนซ์ เชือดไป 1-0 ก่อนลับหน้าแข้งนัดหมายถัดไป 

ลิเวอร์พูลได้เฮลั่น โดยทันทีในจุดโทษ ทว่า ควีวิน เคลเลเฮอร์ ยืนปิดเสาแรกทางขวารับบอลอยู่มือ นาทีที่ 21 ไปสู่กลางครึ่งแรก ผู้เล่นทั้งคู่ทีมพักคูลลิ่งเบรกน้อย เจอร์เก้น คล็อปป์ใช้เวลากระตุ้นผู้ร่วมทีมให้เน้นย้ำมากยิ่งกว่านี้

ข้างหลังการเข้าทำยังไม่แจ่มเจ๋งเท่าไรนัก อิบราฮิม่า โกนาเต้ มีพลาดเช่นเดียวกัน สกัดลูกเตะมุมไม่ดี บอลลอยเข้าหัวผู้เล่นคู่ปรปักษ์ได้ลุ้นสกอร์ ยังดีที่บอลไม่มีน้ำหนักเข้าซอง ควีวิน เคลเลเฮอร์ ตอนนาทีที่ 27

หงส์แดงชวดเฮนาทีที่ 32 โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ หลุดมาด้านขวา ก่อนเจ้าตัวตบบอลมาถูกเท้า มุสซ่า นิอาฮาเต้ แผงหลังไมนซ์ บอลเปลี่ยนแปลงทางมาหา ซาดิโอ มาเน่ แปเร็วแม้กระนั้นบอลออกข้างเสาขวาอย่างโชคร้าย

ก่อนจบครึ่งแรก 5 นาที นาบี้ เกอิต้า แทงเข้าจุดโทษทางซ้าย อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน แตะต้องบอลแต่งแล้วปั่นติดเซฟ โรบิน เซนท์เนอร์ ปัดออกข้างหลังแบบหวุดหวิด หมด 45 นาที เท่ากัน 0-0

ห้านาทีแรกช่วงหลัง ลิเวอร์พูลแปลงผู้เล่นยกชุด โดย ดิว็อค โอริกี้ ลงสำรองมาเก็บบอลหน้ากรอบจุดโทษ ป้ายมาด้านขวา เคอร์ติส โจนส์ จับบอลแล้วซัดย้อนไปเสาทางด้านซ้าย แต่ทว่าไม่ตรงกรอบบอลออกไป

เควิน ชโตรเกอร์ ผู้เล่นสำรองไมนซ์ซัดฟรีคิกขอบสนามด้านขวาระยะเกือบจะ 30 หลา บอลพุ่งแรง แต่แนวทางยังไม่ดีเพียงพอออกข้างกรอบประตูฝั่งขวา นาที 57 ผ่านมานาที 72 เควิน ชโตรเกอร์ เปิดเตะมุมฝั่งขวา

บอลย้อนมาหน้ากรอบจุดโทษ โดมินิค วานเนอร์ ยิงสวนกลับมาหน้าประตู บอลเข้าซอง อาเดรียน ที่ลงมาเฝ้าเสาเป็นตัวสำรองแมตช์นี้ จังหวะต่อเนื่อง เคอร์ติส โจนส์ ได้บอลในจุดโทษ เจ้าตัวสับไกบอลจะมุดตาข่ายทางด้านซ้าย

แต่ทว่า ฟินน์ ดาห์เมน นายด่านสำรองไมนซ์โชว์เหนียวตีทิ้งช่วยสังกัดเดิมรอดพ้นเสียสกอร์ ตอนสิบห้านาทีช่วงหลัง เควิน ชโตรเกอร์ โยนตั้งลูกเตะมุมมาให้ เลอันโดร บาร์เรย์โร่ มุ่งหน้าเท้าซัดเต็มข้อ บอลได้ลุ้นเป็นประตูแน่นอน

แต่ทว่า อาเดรียน เหินตัวปัดปลายมือออกข้างหลังอย่างยอดเยี่ยม แต่ว่าแล้วนาทีที่ 86 ลิเวอร์พูลนำ 1-0 โอเว่น เบ็ค สปีดมาหยอดบอลทางด้านซ้ายเข้ากึ่งกลางจุดโทษ แต่ว่าเปลี่ยนเป็น ลูก้า ยานนิส คีเลียน หน้าแข้งไมนซ์กระโดดสกัดบอลไม่ถูกเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองไป

ตอนนาทีท้ายที่สุด เคอร์ติส โจนส์ เข้าไปดวลลำพังนายทวารคู่ต่อสู้ แล้วดีดจ่ายบอลซุกตูดตาข่าย แต่เจ้าตัวล้ำหน้าก่อนแล้วชวดพังทลายประตูให้ทีม แม้กระนั้นไม่มีปัญหา จบเกม ลิเวอร์พูล เฉือน ไมนซ์ 1-0 ซิวชัยแรกในตอนปรีฤดูกาลสำเร็จ

ก่อนลับลำแข้งนัดหมายถัดไป เจอ แฮร์ธ่า เบอรืลิน วันพฤหัสบดีที่ 29 เดือนกรกฎาคมถัดไป รายชื่อผู้เล่นที่ลงสู่สนาม ลิเวอร์พูล (4-3-3): ควีวิน เคลเลเฮอร์ (อาเดรียน),เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (เนโก้ วิลเลี่ยมส์),

โฌแอล มาติป (นาธาเนียล ฟิลลิปส์),อิบราฮิม่า โกนาเต้ (บิลลี่ คูเมติโอ),คอสตาส ซิมิกาส (โอเว่น เบ็ค),เจมส์ มิลเนอร์ (ไคเด้ กอร์ดอน),นาบี้ เกอิต้า (ไทเลอร์ มอร์ตัน),ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ (เลจ์ตัน คลาร์กสัน), อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (ดิว็อค โอริกี้),

ซาดิโอ มาเน่ (ทาคุมิ มินามิโนะ),โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ (เคอร์ติส โจนส์) ไมนซ์ (3-5-2): โรบิน เซนท์เนอร์ (ฟินน์ ดาห์เมน),เดวิด เนเมธ (โยนาธาน ไมเออร์), อเล็กซานเดอร์ แฮค (เยอร์รี่ ซังต์.ยุสเต้),มุสซ่า นิอาฮาเต้ (ชเตฟาน เบลล์),

ดาเนียล โบรซินสกี้ (เลอันโดร บาร์เรย์โร่),เมอร์วิลเล่ ปาเป้ล่า (ทิโมธี รูปิล),โดมินิค โคหร์ (นิคลาส เทาเออร์),ฌอง-ปอล โบติอุส (ลูก้า ยานนิส คีเลียน),อารอน มาร์ติน (อันแดร์ซอน ลูโคคี),เบน บ็อบเซียน (เควิน ชโตรเกอร์ ),พอล เนเบล (โดมินิค วานเนอร์) จับตัวได้